ไรเดอร์ ถาม สั่งอะไรเยอะแยะ ! ลูกค้าสาวไม่ทน โพสต์แฉโดนต่อว่าแถมด่าหยาบ

ไรเดอร์ ถาม สั่งอะไรเยอะแยะ ! ลูกค้าสาวไม่ทน โพสต์แฉโดนต่อว่าแถมด่าหยาบ

ดราม่าวันนี้ ไรเดอร์ ต่อว่าลูกค้า แถมด่าหยาบ สาวไม่ทนโพสต์แฉพฤติกรรม พนักงานส่งอาหาร พิมพ์ถาม สั่งอะไรเยอะแยะ รอนานเป็นชั่วโมง งานนี้ทัวร์มาเพียบ ชาวเน็ต เพื่อนร่วมอาชีพ ไม่ทนจวกเละ แนะแจ้งต้นสังกัด วันที่ 12 เม.ย. 2565 โลกโซเชียลทีการกล่าวถึงแชทสนทนาร้อนที่กำลังเป็นดราม่า กรณีลูกค้าสาวรายหนึ่งออกมาโพสต์แฉ พฤติกรรมของ ไรเดอร์ แอพพลิเคชั่นสั่งอาหารเจ้าหนึ่ง ซึ่งมีการส่งข้อความตอบกลับมาในเชิงต่อว่า และตำหนิ คำสั่งซื้อของลูกค้า

ข้อความที่พนักงานส่งกลับมามีตัวอย่างข้อวความว่า “สั่งอะไรเยอะแยะ” 

โดยนอกจากภาพซึ่งเป็นข้อความแชทสนทนาที่สาวเจ้าของเรื่อง เอามาแฉว่าเธอถูกไรเดอร์ต่อว่าแล้ว ในโพสต์ยังติดแคปชั่นไว้ด้วยว่า “สั่งอาหาร (ขอสงวนชื่อ) แต่ได้การตอบกลับแบบนี้”

เส้นทางเลี่ยงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เริ่มจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 กม.ที่ 73+070 (จุดที่ 1) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงชนบทสาย สส.2021

เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 23.7 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 23+700 เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3176 (จุดที่ 2) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 12.6 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่จังหวัดเพชรบุรี (จุดที่ 3)

และสามารถเลี่ยงการจราจรจากจังหวัดเพชรบุรีไปยังอำเภอชะอำ โดยเริ่มจากทางหลวงชนบทสาย สส.2021 (จุดที่ 2)

เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 36.3 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 60+000 เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3187 (จุดที่ 4) เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 18.5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 กม.ที่ 169+070 (จุดที่ 5) เพื่อมุ่งสู่อำเภอชะอำ

เส้นทางเลี่ยงการจราจรในช่วงจังหวัดสุพรรณบุรีไปจนถึงจังหวัดชัยนาท เริ่มต้นจากจังหวัดนครปฐมบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 321 เป็นระยะทาง 75 กิโลเมตร (จุดที่ 1)

แล้วเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 333 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร (จุดที่ 2) เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงชนบท สพ.4059 เดินทางต่อไปเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร (จุดที่ 3)

และตรงไปบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3496 เป็นระยะทาง 27 กิโลเมตร (จุดที่ 4) จากนั้นตรงไปบนทางหลวงชนบท ชน.4054 เป็นระยะทาง 44 กิโลเมตร จนถึงอำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท (จุดที่ 5) ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจังหวัดอุทัยธานี จังหวัดนครสวรรค์ และมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือต่อไป

เกี่ยวกับ NVX-CoV2373

NVX-CoV2373 เป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 แบบใช้โปรตีน วางโครงสร้างโดยใช้ลำดับพันธุกรรมของไวรัส SARS-CoV-2 สายพันธุ์แรก ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคโควิด-19 วัคซีน NVX-CoV2373 สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีอนุภาคนาโนลูกผสมของโนวาแวกซ์ เพื่อสร้างแอนติเจนที่มาจากโปรตีนหนาม (S) ของไวรัสโคโรนา เสริมฤทธิ์ด้วย Matrix-M™ แบบใช้ซาโปนินสิทธิบัตรของโนวาแวกซ์ เพื่อยกระดับการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นให้เกิดแอนติบอดีลบล้างในระดับสูง NVX-CoV2373 ประกอบด้วยแอนติเจนโปรตีนบริสุทธิ์ที่ไม่เพิ่มจำนวนและไม่ทำให้เป็นโรคโควิด-19

วัคซีนโควิด-19 ของโนวาแวกซ์เป็นวัคซีนเหลวพร้อมใช้งานในขวดแก้วขนาด 10 โดส แบ่งเป็น 2 โดส โดสละ 0.5 มิลลิลิตร (แอนติเจน 5 ไมโครกรัม และสารเสริมฤทธิ์ Matrix-M 50 ไมโครกรัม) โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อห่างกัน 21 วัน จัดเก็บได้ที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ทำให้ใช้ช่องทางซัพพลายเชนวัคซีนและระบบลูกโซ่ความเย็นที่มีอยู่เดิมในการกระจายวัคซีนได้ ทั้งนี้ ควรใช้วัคซีนตามคำแนะนำจากหน่วยงานทางการ

โนวาแวกซ์ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือเพื่อผลิต วางจำหน่าย และกระจายวัคซีน NVX-CoV2373 ทั่วโลก โดยการขึ้นทะเบียนที่ได้รับการรับรองแล้วในปัจจุบันใช้ประโยชน์จากความร่วมมือด้านการผลิตระหว่างโนวาแวกซ์กับผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ปริมาณอย่างสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) และจะเสริมด้วยข้อมูลจากแหล่งการผลิตอื่น ๆ ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกของโนวาแวกซ์ในภายหลัง

เกี่ยวกับการทดลองวัคซีน NVX-CoV2373 เฟส 3

NVX-CoV2373 อยู่ระหว่างการทดลองเฟส 3 ที่มีความสำคัญ 2 โครงการด้วยกัน

โครงการ PREVENT-19 ในสหรัฐและเม็กซิโกมีอาสาสมัครอายุ 18 ปีขึ้นไปเกือบ 30,000 ราย ปรากฏให้เห็นประสิทธิภาพรวม 90.4% โดยเป็นการทดลองแบบสุ่ม 2:1 ควบคุมด้วยยาหลอก และผู้ถูกทดลองไม่รู้ว่าได้รับยาอะไร เพื่อประเมินประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และการตอบสนองภูมิคุ้มกันของวัคซีน NVX-CoV2373 ผลลัพธ์หลักของโครงการ PREVENT-19 อยู่ที่การเกิดโรคโควิด-19 แบบแสดงอาการ (เบา ปานกลาง หรือหนัก) ที่ตรวจ PCR ยืนยันแล้ว โดยเริ่มแสดงอาการอย่างน้อย 7 วันหลังรับวัคซีนเข็มที่สองในกลุ่มอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ที่มีผลตรวจเซโรโลจีเป็นลบ (ต่อไวรัส SARS-CoV-2) เกณฑ์ความสำเร็จทางสถิติประกอบด้วยค่า 95% CI >30% ส่วนผลลัพธ์รองคือการป้องกันโรคโควิด-19 แบบแสดงอาการปานกลางหรือรุนแรงที่ตรวจ PCR ยืนยันแล้ว ผลลัพธ์ทั้งสองนี้ได้รับการประเมินอย่างน้อย 7 วันหลังให้วัคซีนเข็มสองในอาสาสมัครที่ไม่เคยติดเชื้อ SARS-CoV-2 มาก่อน วัคซีนดังกล่าวทนต่อผลข้างเคียงได้ดีและมีการตอบสนองทางแอนติบอดีสูงในการทดลองทั้งสองโครงการ ผลการทดลองทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ไว้ในวารสาร New England Journal of Medicine (NEJM)