วันที่ 8 ก.พ. จากกรณีพรรคไทยรักษาชาติ เสนอชื่อ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จนทำให้เกิดกระแสในแวดวงการเมืองอย่างกว้างขวาง ล่าสุด ไอจี nichax อินสตราแกรมส่วนตัวของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงออกมาโพสต์ถึงกรณีดังข่าว ดังนี้
“ขอขอบคุณสำหรับความรัก และทุกกำลังใจ และความสนับสนุนจากพวกเราคนไทยทุกคน
ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งที่สุด และอยากบอกว่าอยากเห็นพวกเราได้มีโอกาส มีสิทธิ์ที่จะมีโอกาส และมีความสุขในประเทศของเรา และขอชี้แจงว่า ดิฉันได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และอยู่ในฐานะสามัญชนแล้ว ดิฉันจึงขอใช้สิทธิ์และเสรีภาพอย่างสามัญชนภายใต้รัฐธรรมนูญกฎหมาย และข้าพเจ้ายินยอมให้พรรคไทยรักษาชาติใช้ชื่อเพื่อเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นเพียงการแสดงถึงสิทธิ เสรีภาพ และความไม่มีอภิสิทธิ์์ใดๆเหนือปวงชนชาวไทยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากแต่การกระทำครั้งนี้ ข้าพเจ้าได้กระทำด้วยความจริงใจและความตั้งใจเสียสละในการขอโอกาสนำประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง”
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งยังเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ แม้จะทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้วตามกฎมณเฑียรบาล โดยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังทรงสถานะและดำรงพระองค์ในสถานะสมาชิกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นที่รักใคร่ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ตลอดจนเป็นที่เคารพยกย่องของพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ และประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานด้วยทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยในการดำรงพระองค์และการประกอบพระกรณียกิจต่างๆ นั้น ทรงปฏิบัติด้วยการถวายงานของข้าราชการในพระองค์ และหน่วยราชการต่างๆ ของหน่วยราชการในพระองค์ตลอดมา การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชโองการ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ต้องอยู่เหนือการเมือง | ข่าวโดย Thaiger
อนึ่ง บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกฉบับรวมทั้งฉบับปัจจุบัน มีหมวดว่าด้วยพระมหากษัตริย์เป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่รองรับสถานะพิเศษของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประเพณี การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่เหนือการเมือง และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิด กล่าวหา หรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดใดมิได้ ซึ่งบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญดังกล่าวย่อมครอบคลุมถึงพระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์ ดังที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจร่วมกับพระองค์หรือแทนพระองค์อยู่เป็นนิจ ดังนั้นพระราชินี พระรัชทายาท และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ จึงอยู่ในหลักการเกี่ยวกับการดำรงอยู่เหนือการเมือง และความเป็นกลางทางการเมืองพระมหากษัตริย์ด้วย และไม่สามารถดำรงตำแหน่งใดๆ ในทางการเมืองได้ เพราะจะเป็นการขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกาศ ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2562 ในรัชกาลปัจจุบัน
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เจ้าหญิงผู้ทันสมัยและเป็นกันเองกับประชาชน
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี” ได้ตอบกลับคอมเมนต์ในอินสตาแกรมที่เข้ามาบอกว่า ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานครับ ลุ้นที่สุดในโลกครับ ซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ รับสั่งตอบกลับว่า ถ้าลุ้นอย่าพูดว่าทรงพระเจริญ เพราะไม่อินเทรนด์ ถ้าจะให้พรก็บอกว่า ทรงพระสเลนเดอร์ นับว่าเป็นการไม่ถือพระองค์ และทรงมีพระจริยวัตรที่งดงามใกล้ชิดประชาชน และทรงมีการดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย และสวมเครื่องแต่งกายอย่างคนทั่วไป
ล่าสุด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ได้ตอบรับตามทูลเชิญจากพรรคไทยรักษาชาติ ให้เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้ ทำให้ #ทรงพระสเลนเดอร์ ทีทูลกระหน่อมหญิงแนะนำให้ประชาชนใช้ กลับมาฮิต และขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง
วันที่ 8 ก.พ. นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ยื่นหนังสือต่อ กกต. คัดค้านพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรค โดยให้เหตุผลว่า ทูลกระหม่อมหญิงฯ ยังทรงเป็นเจ้าฟ้าชั้นทูลกระหม่อม เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นทูลกระหม่อมหญิงฯ จึงเป็นส่วนหนึ่งในสถาบันพระมหากษัตริย์ตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 และเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่าพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมขึ้นไปต้องดำรงอยู่เหนือการเมืองด้วยฐานะกำเนิด
ดังนั้นหากในอนาคตพรรค ทษช. นำพระนามของทูลกระหม่อมหญิงฯ ไปหาเสียงเลือกตั้งก็จะเข้าข่ายความผิดตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. หมวด 4 ข้อ 17
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป