โล่งอก จับตัวประกันขอนแก่นล่าสุด ตำรวจยิงคนร้าย เข้ารวบตัวสำเร็จ

โล่งอก จับตัวประกันขอนแก่นล่าสุด ตำรวจยิงคนร้าย เข้ารวบตัวสำเร็จ

จับตัวประกันขอนแก่นล่าสุด ตำรวจยิงคนร้าย ก่อนเข้าช่วยเหลือตัวประกันและรวบตัวผู้ก่อเหตุได้สำเร็จ เผยคนร้ายมีอาการคล้ายคนเมายาเสพติด จากกรณีที่ชายคลั่งจับตัวประกันขอนแก่น โดยผู้ก่อเหตุได้จับตัว นางสุวรรณ อายุ 54 ปี ภรรยาเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เป็นตัวประกัน ซึ่งจากการตรวจพบว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นคนเก็บของเก่ามีอาวุธปืนและระเบิดด้วยนั้น

ล่าสุดมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงคนร้าย 1 นัด 

ส่งผลให้คนร้ายได้รับบาดเจ็บ และเปิดโอกาสให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมคนร้ายและเข้าช่วยเหลือตัวประกันได้สำเร็จ ขณะที่ นายประสบ เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ก่อเหตุ ได้เข็นรถซาเล้งเข้ามาในชุมชนเทพารักษ์ แต่มีอาการคลุ้มคลั่งคล้ายกับคนเมายาเสพติด ชาวบ้านจึงได้แจ้งตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้ามาควบคุมตัว

เป็นห่วงภรรยามาก เนื่องจากมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ และมีอาการเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด หากมีเสียงดังหรือเหตุรุนแรงใดๆ เกรงว่าภรรยาอาจจะช็อกได้ จึงอยากให้คนร้ายช่วยปล่อยตัวภรรยาตนเอง

ทว่าผู้ก่อเหตุ ไม่ยอมเจ้าหน้าที่เจรจาอยู่นานแต่ก็ไม่เป็นผล และทางคนร้ายได้ตะโกนว่าจะจับลูกสาวร้านซ่อมรถจักรยานยนต์เป็นตัวประกัน และวิ่งเข้าร้าน ตนเห็นแบบนี้จึงได้อุ้มหลานสาววิ่งหนี ก่อนหกล้มได้รับบาดเจ็บ ส่วนภรรยาวิ่งหนีไม่ทันถูกชายคนนี้ใช้อาวุธปืนจี้และจับเป็นตัวประกัน

คนร้ายคลั่ง จับตัวประกันขอนแก่น พบมีระเบิดและปืน ล่าสุดสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย สั่งประชาชนรีบออกจากพื้นที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุ จับตัวประกันขอนแก่น หลังจากที่คนร้ายที่มีรายงานว่ามี อาวุธปืนและระเบิดมือ เป็นคนเก็บของเก่าในเมืองขอนแก่น มีอาการคลุ้มคลั่ง และได้จับตัวประกัน ที่ ที่ชุมชนเทพารักษ์ หลังศูนย์ราชการขอนแก่น

เบื้องต้นตัวประกันเป็นภรรยาเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ ไม่มีรายงานว่าทั้งสองรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ เบื้องต้นสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงสัญจรเส้นทางดังกล่าว และสำหรับประชาชนในพื้นที่ ขอให้รีบอพยพทันที เพราะเกรงอันตรายจากระเบิด

ตำรวจไซเบอร์ จับกุมผู้ต้องหา แอดมินกลุ่มไลน์ มือปล่อยคลิป แม่พาลูก 9 ขวบไปขายบริการ คลิปว่อนกลุ่มลับ โดยบุกรวบตัวได้ที่บ้านพักแห่่งหนึ่งย่านสมุทรปราการ

ความคืบหน้า คดีสลด แม่พาลูก 9 ขวบ ขายบริการ อัดคลิปเผยแพร่ในกลุ่มลับก่อนหลุดสู่โลกโซเชียลจนเจ้ากน้าที่ตำรวจทำการจับกุมหญิงผู้เป็นแม่ไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด วันนี้ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบอาญชากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ก็ได้บุกเข้าจับกุม มือดีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอเด็กหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศทางสื่อสังคมออนไลน์ ภายหลังการสืบสวนขยายผล ทราบตัว นายศิริ ปรือปรัง อายุ 52 ปี ผู้ต้องหา ทำหน้าที่เป็นแอดมินกลุ่มไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำผิด

จากการตรวจสอบ พบว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโออนาจารเด็กตามที่เป็นข่าว เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.65 โดยการเข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้อง ถูกกล่าวหาในฐานคความผิด 2 คดี ได้แก่

ข้อหา นายศิริ ปรือปรัง อายุ 52 ปี ผู้ต้องหา คดีปล่อยคลิปอนาจาร แม่พาลูก 9 ขวบไปขาย

1. เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี – 10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000 บาท – 200,000 บาท

2. นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ และเผยแพร่ หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(4) (5) มีอัตราโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ” ส่ง พงส.สภ.บางพลี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เปิดคำสารภาพผู้เป็นแม่พาลูกไปขายคลิป สุดสลด  ที่บอกทำครั้งเดียว ไม่จริง

ทั้งนี้ น.ส.จันทรา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี หญิงผู้เป็นแม่ที่พาลูกไปขายบริการ ซึ่งเวลานี้ถูกจับกุมตัวและดำเนินคดีตามกฏหมายอยู่นั้น อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักข่าว ผู้จัดการออนไลน์ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติ พบ น.ส.จันทรา เคยประกอบอาชีพขายบริการทางเพศมาก่อน

ต่อมาลูกค้าที่มาซื้อบริการเห็นภาพของ ด.ญ.บี ลูกสาวในเฟซบุ๊ก จึงขอให้ถ่ายคลิปวิดีโอในลักษณะลามกอนาจาร ส่งขายหลายครั้ง โดยตอนแรกที่ถูกจับบอกว่าทำแค่หนเดียวนั้นไม่จริง

ระหว่างขายบริการทางเพศ ผู้เป็นแม่อ้างว่า ลูกค้าเป็นฝ่ายขอให้ถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ให้ และพาลูกสาวไปขายบริการทางเพศในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 5 ครั้ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดนครปฐม ได้รับค่าตอบแทนครั้งละ 2,000-5,000 บาท ส่วนค่าตอบแทนจากการขายคลิปวิดีโอ คลิปละ 100-500 บาท

ขณะเดียวกัน ยังเร่งดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมการรีดทรัพย์ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในอดีตตามที่มีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียน ซึ่งพบว่า มีอยู่ 3-4 คดี ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ย.) ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะมีการส่งสำนวนการสอบสวนให้กับทาง ป.ป.ช.พิจารณา ตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากจากผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งตามปกติแล้ว ป.ป.ช. จะส่งเรื่องกลับมาให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการต่ออีกครั้งภายในเวลา 30 วัน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป